รัสเซีย พิจารณาเปิดให้ ‘ซอฟต์แวร์เถื่อน’ ถูกกฎหมาย

รัสเซีย พิจารณาเปิดให้ ‘ซอฟต์แวร์เถื่อน’ ถูกกฎหมาย

รัฐบาล รัสเซีย เตรียมดำเนินการร่างกฎหมายที่จะเปิดให้กับการ ละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ (Software Piracy) / ซอฟต์แวร์เถื่อน ภายหลังเผชิญกับการคว่ำบาตรทางเทคโนโลยีอย่างหนัก (10 มี.ค. 2565) หลังจากที่โดนการคว่ำบาตรในหลายด้าน ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านเทคโนโลยี ที่บริษัททั้งในภาคส่วนซอฟต์แวร์ และฮาร์ดแวร์ได้ดำเนินการยุติการสนบัสนุน หรือให้บริการกันไปแล้วภายในประเทศ รัสเซีย ซึ่งรัฐบาลก็ได้หาทางแก้ไขปัญหาดังกล่าวด้วยการเตรียมดำเนินการร่างกฎหมายที่จะเปิดให้กับการ ละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ (Software Piracy) 

อ้างอิงจากการรายงานของ Torrentfreak 

รัฐบาลรัสเซียนั้นกำลังอยู่ระหว่างการร่างกฎหมายที่อนุญาตให้การละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ถือว่าถูกกฎหมาย โดยร่างดังกล่าวถูกเรียกว่า “แผนการดำเนินงานสำคัญสำหรับการรับรองการพัฒนาของเศรษฐกิจประเทศรัสเซียในสถานการณ์การกดดันด้วยการคว่ำบาตรจากภายนอก” (Priority Action Plan for Ensuring the Development of the Russian Economy in the Conditions of External Sanctions Pressure) จากกระทรวงพัฒนาเศรษฐกิจของรัสเซีย

การเปิดทางดังกล่าวอยู่ส่วนข้อกฎหมายที่ 6.7.3 ของเทคโนโลยีข้อมูล โดยเขียนไว้ว่า “การยกเลิกของความรับผิดสำหรับการใช้งานซอฟต์แวร์ที่ไม่ได้ลงทะเบียนภายในประเทศรัสเซีย และเป็นซอฟต์แวร์ของผู้ถือลิขสิทธิ์จากประเทศที่สนับสนุนการคว่ำบาตร”

เรียกง่าย ๆ ก็คือ ถ้ากฎหมายที่ว่าผ่านแล้วนั้น รัสเซียจะปล่อยผ่านการกระทำที่ผิดกฎหมายทั้งทางแพ่ง และทางอาญาที่เกี่ยวข้องกับการใช้งานซอฟต์แวร์เถื่อน (ละเมิดลิทสิทธิ์) ในขอบเขตที่ว่าต้องซอฟต์แวร์จากประเทศที่สนับสนุนการคว่ำบาตรประเทศรัสเซียเท่านั้น

ในส่วนของขอบเขตของซอฟต์แวร์นั้น ดูเหมือนว่าจะครอบคลุมซอฟต์แวร์ทุกอย่างรวมไปถึงเกมส์ แต่คาดว่ารัฐบาลนั้นจะมุ่งเน้นสำหรับบรรดาบริษัท/ผู้ประกอบการทั้งหลายภายในประเทศ ให้สามารถดำเนินการต่อไปได้

ซึ่งก็ถือว่าอาจจะไม่ใช่อะไรที่น่าประหลาดใจเท่าไหร่ เนื่องจากรัสเซียนั้นก็ถือว่าเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการแพร่ระบาดของซอฟต์แวร์เถื่อนเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่การถอยตัวจากการป้องกันการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์นั้น ถือว่าเป็นความพยายามอย่างหนักในการดิ้นรนเอาตัวรอดจากการคว่ำบาตรอย่างหนักในเวลานี้

เริ่มดำเนินการวางขายในประเทศอื่น ๆ นอกเหนือจากประเทศจีนแล้วกับ Oppo K10 ที่ได้มีการประกาศว่าจะวางขายในประเทศอินเดีย ภายในวันที่ 23 มี.ค. 2565 (15 มี.ค. 2565) หลังจากที่ได้ทำการประกาศวางขายในประเทศจีนไปแล้วก่อนหน้านี้กับ Oppo K10 สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่จากออปโป้ ก็ได้มีการประกาศวางขายในประเทศอื่นตามมาด้วย โดย ณ ที่นี่ก็คือประเทศอินเดีย ซึ่งจะวางขายภายในวันที่ 23 มีนาคม 2565

โดยทั้งนี้แล้วยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดของข้อมูลตัวเครื่องของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ โดยมีเพียงแค่ภาพของตัวเครื่องที่มาในรูปแบบของสีน้ำเงินเงา และสีดำแบบ Matte ซึ่งจะมาพร้อมกับกล้อง 2 ตัวที่ตัวหลักจะมีเป็นในขนาด 50MP และใช้งานชิปประมวลผล Dimensity 8000 SoC (ตามที่ได้ประกาศในประเทศจีน)

ซึ่งก็คาดว่าภายในวันที่ 23 มี.ค. 2565 เราจะทราบข้อมูลตัวเครื่องได้มากขึ้นกว่านี้ และภายในปีนี้อาจจะมีการวางขายในประเทศอื่น ๆ เพิ่มเติม รวมถึงประเทศไทยด้วย

Stalker 2 เปลี่ยนชื่อเกมส์ให้สะกดตามคำอ่านแบบยูเครน

GSC Game World ทำการเปลี่ยนชื่อเกมส์ Stalker 2 ให้สะกดตามคำอ่านแบบยูเครน เพื่อให้ตรงกับการใช้งานทางการ และแสดงจุดยืนของสถานการณ์ในเวลานี้ (14 มี.ค. 2565) GSC Game World ทีมงานผู้พัฒนาเกมส์ Stalker 2 ได้ดำเนินการเปลี่ยนชื่อท้ายของเกมส์ให้เป็นไปตามชื่อเรียกทางการ และคำสะกดตามคำอ่านแบบยูเครน คาดว่าเป็นการตอกย้ำจุดยืนที่แน่ชัดถึงการเป็นเอกราชของประเทศ และในระหว่างสงครามรัสเซีย-ยูเครน

โดยการเปลี่ยนแปลงนัั้นก็คือการเปลี่ยนการสะกดของคำเรียก เชอร์โนบิล (Chernobyl) ที่เป็นแบบรัสเซียให้เป็น ชอร์โนบิล (Chornobyl) ที่เป็นการสะกด และอ่านแบบยูเครน ซึ่งจะมีผลในข้อความทั้งหมดบนแพลตฟอร์มต่าง ๆ รวมถึงร้านค้าเช่น Steam ด้วยเช่นกัน แต่ทั้งนี้แล้วเนื้อหาโฆษณา และภาพโปรโมทอื่น ๆ นั้น จะยังคงใช้งานแบบเก่าอยู่

ซึ่งก็นับว่าเป็นการดำเนินการที่เริ่มมีมากขึ้นตั้งแต่การบุกเข้ายึดภูมิภาคไครเมีย และดอนบาสของรัสเซีย ก็เริ่มมีการรณรงค์ให้มีการใช้งานการออกเสียง และการสะกดคำตามแบบของยูเครนมากขึ้น เช่นในปี 2018 ที่มีการรณรงค์ให้มีการออกเสียงเรียกชื่อเมืองหลวงใหม่จาก Kiev มาเป็น Kyiv นอกจากนี้ก็ยังรวมไปถึงการส่งเสริมวัฒนธรรมดั้งเดิมต่าง ๆ ของยูเครนอีกด้วย

ในเวลานี้สงครามยังคงดำเนินต่อไปอยู่ และยังไม่มีทีท่าจะสงบลงโดยเร็ว ซึ่งก็ส่งผลต่อการดำเนินการต่าง ๆ เฉพาะอย่างยิ่งกับ GSC Game World ที่มีฐานที่ตั้งอยู่ในเมืองหลวง Kyiv โดยได้ประกาศพักการพัฒนาเกมส์ออกไปเป็นการชั่วคราวจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายลงไป

กล้องหลัง 4 ตัว กับมาตรฐานความชัดของกล้องหลัก Wide สูงสุดที่ 64 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสง f/2.4, กล้อง Ultra – Wide ความชัดสูงสุด 8 ล้านพิกเซล เปิดรูรับแสงกว้างขนาด f/2.2 และยังทำมุมภาพ ได้มากถึง 123 องศา เลยทีเดียว, กล้อง Macro ความชัดสูงสุด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.4 ช่วยทำให้วัตถุชิ้นเล็ก มีความโดดเด่นขึ้นมา ให้คุณไม่พลาดทุกรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ,

Credit : ที่เที่ยวญี่ปุ่น | จัดอันดับต่างๆ | รีวิวของแบรนเนม | วิธีการลงทุนต่า